Last updated: 15 ส.ค. 2564 | 7616 จำนวนผู้เข้าชม |
ดอกสว่านที่เราทุกคนเคยใช้นั้น ถูกผลิตมาเพื่อการใช้เจาะกับวัสดุที่แตกต่างกัน เช่น ไม้,พลาสติก,อลูมิเนียม,เหล็ก,เหล็กแข็ง,สแตนเลส ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทางผู้ผลิต(maker) เลือกวัสดุนำมาใช้ทำดอกสว่าน.
ซึ่งวัสดุหลักๆ ที่ทางผู้ผลิตใช้ผลิตดอกสว่าน เช่น
- เหล็กคาร์บอน (Carbon Steel)
ดอกสว่านที่ผลิตจากวัสดุชนิดนี้ เหมาะกับผิวงานที่ไม่แข็ง เช่น ไม้ พลาสติก เหล็กทั่วไป คมของดอกจะสึกไว จึงต้องหมั่นลับคมอยู่บ่อยๆ แต่ข้อดีของดอกสว่านแบบนี้คือ มีราคาที่ถูก ลับคมง่าย.
-เหล็กกล้า (HSS Steel)
เป็นชนิดที่นิยมใช้ในหลายๆโรงงาน เนื่องจากมีความทนทานและทนความร้อนได้ดีกว่าเหล็กคาร์บอน เหมาะสำหรับเจาะเหล็กคาร์บอนต่ำ เหล็กคาร์บอนปานกลาง เหล็กหล่อ ทองแดง อลูมิเนี่ยม.
-เหล็กกล้าโคบอล (HSS Co)
เป็นดอกสว่านที่อัพเกรดจาก HSS ธรรมดา โดยการเติมโคบอลลงไปในเนื้อเหล็ก ส่งผลให้ดอกสว่านมีความแข็งและทนความร้อนที่เพิ่มขึ้น เหมาะสำหรับเจาะงาน สแตนเลส และ เหล็กที่มีความแข็งพอประมาณ.
-HSS powder metallurgy
คือดอกสว่านที่ผ่านกรรมวิธีการขึ้นรูปจากผงโลหะมีความคงทนเท่ากันทั้งโครงสร้าง มีความเหนียวและทนความร้อนได้สูงถึง 600องศา หากดอกสว่านชนิดนี้ผ่านการเคลือบผิว(coating) จะมีคุณสมบัติเกือบๆเท่าดอกสว่านคาร์ไบด์ ดอกสว่านชนิดนี้เหมาะกับงานเจาะ ไทเทเนียม อัลลอย,Inconel,เหล็กแข็ง และ Exotic materials.
-คาร์ไบด์ (Carbide)
เป็นวัสดุที่มีราคาสูงและแข็งมากสามารถรักษาความคมไว้ได้นานและดอกสว่านชนิดนี้มีอายุการเจาะ(Tool Life)ที่นานกว่าดอกสว่านHSS ชนิดอื่นๆ จึงเหมาะกับงานเจาะรูจำนวนมาก(Mass Product) เพื่อให้ต้นทุนเฉลี่ยต่อรูถูกลง หรือเจาะเหล็กที่มีความแข็งสูงมาก (ได้ถึง68HRC สำหรับรุ่นเฉพาะ).
-PCD (Polycrytalline diamond)
เป็นวัสดุเพชรสังเคราะห์อุตสาหกรรมที่มีราคาแพงและอนุภาคที่เล็กละเอียดมาก จึงส่งผลให้มีความแข็งและทนความร้อนได้สูงที่สุดในทุกๆวัสดุที่กล่าวมาข้างต้น ทางผู้ผลิต(Maker)นิยมนำไปเชื่อมติดเป็นปลายหัวดอกสว่าน เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องบิน ยานยนต์ ยานอวกาศ และ วัสดุคอมโพสิตชนิดต่างๆ. ในความเร็วรอบและเงื่อนไขที่เหมาะสมดอกสว่านชนิดนี้มีการสึกหรอที่ช้ามาก.